กล้ามเนื้อที่สวยงามได้รูปถือเป็นเสน่ห์มัดใจหญิง ที่หนุ่มๆทั้งหลายล้วนอยากจะไว้เป็นสมบัติของตัวเอง แต่การจะสร้างกล้ามเนื้อให้เป็นไปได้ดั่งใจไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะจะต้องควบคุมทั้งอาหารการกิน การออกกำลังกาย หรือการพักผ่อนที่เพียงพอ จึงจะทำให้คุณสามารถสมหวังตามที่ใจต้องการได้
การสร้างมัดกล้ามเนื้อจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี จึงจะทำให้สามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจน หลักการเริ่มต้นสำหรับใครที่อยากจะมีซิกแพคจะต้องพยายาม “สลายไขมันส่วนเกิน และกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณนั้นให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงมากขึ้น” ซึ่งหากคุณสามารถทำตามหลักการที่ว่านี้ได้ ก็เตรียมตัวที่จะหล่อล่ำกันได้เลย อย่างไรก็ดี เรามาดูวิธีการเตรียมตัวกันดีกว่า ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งคำว่า “ซิกแพค” คำนี้
การจะมีซิกแพคได้ก็ต้องเกิดจากการออกกำลังกายที่ถูกวิธีและถูกจุด หากอยากจะมีซิกแพคควรเริ่มต้นจากการออกกำลังกายชนิด “แอโรบิก” ที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อกระตุ้นการทำงานของหัวใจและระบบการไหลเวียนโลหิตเสียก่อน เนื่องจากโดยปกติแล้ว ร่างกายของเรามักจะเก็บสะสมไขมันส่วนเกินไว้ที่บริเวณหน้าท้องเป็นหลัก ซึ่งหากคุณต้องการสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง ก็จำเป็นจะต้องกำจัดเอาไขมันส่วนเกินบริเวณนี้ออกไปให้เหลือต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ เสียก่อน โดยการออกกำลังกายชนิดแอโรบิกให้ได้ผล ควรออกแรงให้อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในช่วง 70-80% ติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 20 นาที และทำให้ได้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง จึงจะเป็นการเผาผลาญที่ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ ก็จะต้องออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นขนาดของกล้ามเนื้อหน้าท้องไปด้วยในเวลาเดียวกัน โดยกล้ามเนื้อในส่วนที่ต้องบริหารมีชื่อว่า ‘Rectus Abdominis‘ กล้ามเนื้อส่วนนี้จะเป็นส่วนหน้าท้องที่มีมัดกล้ามเนื้อติดกัน วิธีบริหารมีได้หลายวิธี เช่น ซิทอัพ จักรยานอากาศ เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเน้นการเกร็งท้อง และผ่อนคลายสลับกันไป ซึ่งหากทราบวิธีในการสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ถูกวิธี รับรองได้ว่าซิกแพคของคุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนขึ้นแน่นอน
ไม่ใช่แค่ทำให้ถูกท่าเพียงเท่านั้น แต่การบริหารหน้าท้องที่ดีควรจะต้องมีการเปลี่ยนท่าบริหารไปในหลายๆรูปแบบด้วย เพราะหากมัวแต่ออกกำลังกายซ้ำในท่าเดิมๆตลอดเวลา ร่างกายของคนเราก็จะเริ่มจดจำและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ และเมื่อนานวันไป ก็จะไม่สามารถใช้ท่าบริหารท่าดังกล่าวเพื่อสร้างกล้ามเนื้อได้อีกต่อไป ทางที่ดีที่สุด จึงเป็นการพยายามบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องในหลายๆท่า และสลับผลัดเปลี่ยนไปมาเพื่อความหลากหลาย เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถสร้างกล้ามเนื้อที่ดูดีกว่าเดิมได้แล้วละคะ
แค่ออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวคงยังไม่พอที่จะสร้างซิกแพคที่สวยงามได้ อาหารจึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญที่จะช่วยเติมเต็มกล้ามเนื้อให้ขึ้นรูปอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นได้ โดยหลักแล้วจะต้องเน้นการรับประทานอาหารประเภทโปรตีนให้มาก และลดอาหารประเภทไขมันให้น้อยลง โดยอาจจะหาอาหารเสริม เช่น แอล-คาร์นิทีน (L-carnitine) ที่ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน และกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อใหม่ หรือเลือกรับประทานเวย์โปรตีน (Whey Protein) แหล่งของกรดอะมิโนจำเป็นที่เหมาะสมต่อการสร้างกล้ามเนื้อ และช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย มารับประทานเสริมควบคู่ไปด้วย ก็จะยิ่งทำให้ฝันของคุณใกล้ความจริงมากขึ้นไปอีก
บางคนอาจจะสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ได้อย่างครบถ้วน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จกับการสร้างซิกแพคเสียเท่าไร ซึ่งนั่นอาจจะมีเหตุผลมาจากการขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ จึงมีผลให้ร่างกายไม่สามารถหลั่งฮอร์โมนออกมาฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้อย่างสมบูรณ์ ซิกแพคที่ควรจะมีจึงไม่เด่นชัดตามที่ตั้งความหวังเอาไว้ ดังนั้น การนอนหลับอย่างเพียงพอจึงถือเป็นปัจจัยสุดท้ายที่เหมาะสมสำหรับคนที่ต้องการจะมีกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแรงและได้รูปนั่นเอง
อย่างไรเสีย เชื่อว่าคงไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความอดทนเพียงพอในการสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องที่สวยงาม บางคนอาจจะไม่มีเวลาหรือไม่มีกำลังใจมากพอที่จะสร้างซิกแพคเหล่านี้มาด้วยความสามารถของตนเอง พวกเขาจึงเลือกทางลัดโดยการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์มาเป็นตัวช่วยในการสร้างซิกแพคแทน วิธีการนี้จะอาศัยการใช้คลื่นเสียงหรือเลเซอร์เพื่อทำลายเซลล์ไขมันที่บดบังมัดกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องให้อ่อนตัวลง ก่อนจะดูดไขมันเหล่านี้ออกไป แล้วเย็บผิวหนังให้เห็นเป็นลอนกล้ามเนื้อที่ดูชัดเจนยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีที่ว่านี้อาจจะดูขี้โกงไปเสียหน่อย แต่ถ้าคิดดูให้ดีแล้ว การใช้เครื่องมือสร้างซิกแพคก็ไม่ต่างอะไรกับการทำศัลยกรรมบนใบหน้าเลย เพียงแต่เปลี่ยนที่จากใบหน้ามาเป็นหน้าท้องแทน และถ้าคุณมีเงินมากเพียงพอ ก็คงไม่ผิดอะไรถ้าจะลองใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ว่านี้ เพื่อสร้างความสุขส่วนตัวให้กับตัวคุณเอง
หากคุณสามารถสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องหรือซิกแพคได้สวยถูกใจแล้ว ก็ต้องอย่าลืมที่จะถนอมรักษามันให้อยู่ติดตัวคุณไปได้นานๆด้วยนะคะ เพราะหากเมื่อใดที่คุณเผลอรับประทานอาหารมากเสียจนเกินไป แถมยังลืมที่จะออกกำลังกายและนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ‘ซิกแพค’ ที่เคยมีก็จะเปลี่ยนเป็น ‘บิ๊กแพค’ แบบไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้
