การดูแลสุขภาพ, บทความน่ารู้, บทความสุขภาพ, สุขภาพ, สุขภาพดี, สุขภาพน่ารู้, เกี่ยวกับโรค

‘สายชำระสาธารณะ’ สกปรกกว่าที่คิด

    ความทุกข์ไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งมีทุกข์หนักเมื่อใดก็จำเป็นต้องถ่ายทุกข์เมื่อนั้น ทุกช์ที่เราพูดถึงนี้ไม่ใช่ความทุกข์อื่นใด แต่เป็นความทุกข์จากระบบขับถ่ายของเรานี่เองแหละค่ะ เพราะบางครั้ง เราไม่สามารถจะควบคุมอาการปวดท้องอยากถ่ายได้ตลอดเวลา เมื่อใดที่เกิดอาการนี้จนทนไม่ไหวก็จำเป็นต้องอาศัยห้องน้ำสาธารณะในการปลดทุกข์เสียทุกครั้งไป

    แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นห้องน้ำสาธารณะ ก็หมายความว่า เป็นห้องน้ำส่วนรวมที่ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่มีสิทธิใช้ห้องน้ำห้องนั้น และเมื่อมีใครตั้งหลายคนเข้าไปใช้ห้องน้ำร่วมกัน ความสกปรกหรือเชื้อโรคก็มีโอกาสถ่ายทอดจากบุคคลหนึ่งไปสู่อีกบุคคลหนึ่งได้ตลอดเวลา โดยอาศัยอุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ในห้องน้ำนั้นๆเป็นตัวส่งผ่านเชื้อโรคนั่นเอง

    ซึ่งอุปกรณ์หนึ่งที่หลายๆคนในห้องน้ำเลือกใช้ และกลายเป็นพาหะสำคัญของการส่งผ่านเชื้อโรค ก็คือ “สายชำระ” หรือ “สายฉีดก้น” ซึ่งเชื่อกันว่า น่าจะช่วยทำความสะอาดได้ดีมากกว่าการใช้กระดาษทิชชูแห้งๆธรรมดา จะเป็นจริงเช่นนั้นเสมอไปหรือไม่ มาหาคำตอบกันค่ะ

    จริงอยู่ที่สายชำระจะช่วยทำความสะอาดได้อย่างหมดจด เพราะแรงดันของน้ำจะช่วยชะล้างความสกปรกออกไปได้ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำธุระหนัก แต่อย่าลืมด้วยว่า อุปกรณ์ชนิดนี้ไม่ได้มีคุณเพียงคนเดียวที่ใช้มัน และคนก่อนหน้าคุณก็อาจใช้มันอย่างหนักหน่วง จนทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคบริเวณสายชำระก็เป็นได้

    และเมื่อคุณนำสายชำระนั้นมาใช้ต่อ โดยไม่ได้มีการสำรวจความสกปรกก่อน ก็เป็นไปได้ว่า สิ่งสกปรกที่ติดอยู่ที่สายชำระจะมีโอกาสปนเปื้อนมาสู่ตัวคุณได้ และถ้าร่างกายของคุณไม่แข็งแรงหรือมีภูมิต้านทานที่ดีพอ คุณก็อาจจะเกิดการติดเชื้อ และเป็นเหตุผลของการเกิดโรคต่างๆตามมาได้

ภาพจาก : http://newsupdate.todayza.com/2015/08/blog-post_961.html ‘สายชำระสาธารณะ’ สกปรกกว่าที่คิด


    เพื่อเป็นการยืนยันว่าสายชำระสาธารณะเหล่านี้มีความสกปรกและอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ กรมอนามัยจึงได้ทำการสำรวจเชื้อโรคที่มีอยู่ในห้องน้ำสาธาณะ ในปี 2555 ซึ่งผลการทดลองพบว่า “บริเวณที่จับของสายชำระจะมีการปนเปื้อนของอุจจาระอยู่สูงถึง 85% รองลงมาจะเป็นบริเวณพื้นห้องน้ำและฝารองนั่ง ซึ่งยังมีความสกปรกที่น้อยกว่าสายชำระที่คุณชอบหยิบมาใช้กัน

    จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์พบว่า อุจจาระของมนุษย์เรานั้นจะมีเชื้อแบคทีเรียก่อโรคตัวสำคัญที่มีชื่อว่า อีโคไล (E.Coli) และ โคลิฟอร์ม ซึ่งวายร้ายทั้งสองตัวนี้นับเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ E.Coli ที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคกรวยไตอักเสบได้

    อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าผู้ใช้สายชำระสาธารณะทุกคนจะมีโอกาสติดเชื้ออีโคไลและป่วยเป็นโรคกรวยไตอักเสบหรือโรคติดต่ออื่นๆได้ทุกคน เพราะโอกาสที่จะติดเชื้อโรคจากสายชะระในห้องน้ำนั้นมีน้อยเอามากๆ ต้องโดนเข้าจังๆและเป็นคนที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรงจริงๆ จึงจะทำให้ติดเชื้อและป่วยเป็นโรคเหล่านี้ได้

    ศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ ชัยศิลป์วัฒนา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาวิชาการใช้กล้องเพื่อส่องตรวจและรักษา ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า มีผู้หญิงแค่เพียง 5-7% เท่านั้นที่โชคร้ายเกิดการติดเชื้อที่อวัยวะเพศ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีสาเหตุมาจากการใช้น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นที่ทำลายแบคทีเรียตัวดีที่ช่วยป้องกันเชื้อโรคในช่องคลอด ทำให้โอกาสที่จะติดเชื้อที่บริเวณนี้ก็มีมากขึ้นกว่าเดิม

    ดังนั้น จึงอย่าเพิ่งตกอกตกใจจนไม่กล้าใช้สายชำระในห้องน้ำกันไปเสียก่อน คุณยังสามารถใช้งานมันได้ เพียงแต่จะต้องใช้งานมันอย่างถูกวิธี และตรวจสอบให้ดีก่อน ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

    1. หากมีความจำเป็นต้องใช้ ควรฉีดน้ำออกจากสายชำระก่อนสักเล็กน้อย จากนั้นจึงใช้กระดาษทิชชูเช็ดให้แห้งและฉีดน้ำอีกทีก่อนใช้งานตามปกติ

    2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสระหว่างหัวฉีดของสายชำระกับอวัยวะเพศหรือบริเวณใกล้เคียง เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ติดหนอง หรือมีตกขาวติดมาได้ พยายามลดการถ่ายเทเชื้อและรับเชื้อให้ได้มากที่สุด

    3. หากไม่มั่นใจว่าสะอาดจริงหรือไม่ ก็เลิกใช้สายชำระเสีย แล้วลองหาทิชชู่เปียกมาเช็ดทำความสะอาดร่างกายของคุณแทนการใช้สายฉีดน้ำในห้องน้ำจะดีกว่า

    วิธีเหล่านี้น่าจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้นได้ว่า คุณนั้นจะปลอดภัยจากเชื้อโรคที่อยู่รอบข้างเราได้มากขึ้น เพราะการดูแลทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นให้ดี ให้สะอาด เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับคุณผู้หญิงทุกท่าน หากคุณทำมันได้อย่างถูกวิธีและรักษาความสะอาดบริเวณนั้นได้ดีที่สุด รวมถึงเรียนรู้วิธีการที่ถูกต้องในการป้องกันการติดเชื้อที่อวัยวะเพศได้ คุณก็คงไม่ต้องกลัวอีกแล้วว่าจะเกิดโรคร้ายที่เกี่ยวข้องกับความสะอาดบริเวณนี้ได้


    อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพของน้องสาววิธีการอื่นๆ เช่น การไม่ใช้น้ำยาล้างทำความสะอาดเฉพาะจุด การไม่ปล่อยให้อวัยวะเพศอับชื้น การไม่ใส่กางเกงฟิตๆ เป็นต้น ก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำควบคู่กันไปด้วยเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยและเพื่อป้องกันโรคร้ายไม่ให้มาคอยรบกวนใจคุณได้นั่นเอง


Enjoy this blog? Please spread the word :)

Exit mobile version