เมื่อผู้ถึงการตรวจภายใน แน่ใจได้เลยว่าสาวๆทั้งหลายต้องเกรงกลัวกับการขึ้นขาหยั่ง อีกทั้งยังคงต้องมีความรู้สึกเขินอายอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การตรวจสุขภาพด้วยวิธีนี้ถือเป็นความจำเป็นที่หญิงสาวทุกคนจะต้องพบเจอ เพื่อบอกให้รู้ว่าระบบอวัยวะภายในของคุณนั้นมีอะไรผิดปกติไปบ้างหรือป่าว
เชื่อว่าหลากหลายคำถามเกี่ยวกับการตรวจภายใน นับเป็นเรื่องที่สาวๆหลายๆคนต้องการรู้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเกณฑ์อายุที่เหมาะสมต่อการตรวจ การเตรียมตัวก่อนการขึ้นเขียง หรือผลการตรวจวิเคราะห์ ซึ่งแน่นอนว่าบทความนี้จะไขทุกคำถามเพื่อคุณอย่างแน่นอนค่ะ
การตรวจภายในเป็นหนึ่งในวิธีในการวินิจฉัยโรคหรือความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับระบบอวัยวะของเพศหญิงที่สามารถตรวจสอบได้ในทุกช่วงอายุ หากคุณเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติเกี่ยวกับช่องคลอดหรืออวัยวะที่เกี่ยวข้องกับมดลูก เช่น การเกิดตกขาวผิดปกติ มีเลือดออกในช่องคลอด ช่องคลอดมีกลิ่น ปวดท้องน้อย สงสัยว่ามีก้อนหรือสิ่งผิดปกติภายใน การท้องนอกมดลูก โรคทางเพศสัมพันธ์ หรืออาการมีน้ำในช่องท้อง เป็นต้น ความผิดปกติเหล่านี้สามารถหาคำตอบได้ด้วยการตรวจภายในทั้งสิ้น ซึ่งแน่นอนว่าการตรวจภายในสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กวัยอนุบาลจนถึงคนแก่ที่หมดประจำเดือนไปแล้ว
หญิงสาวบางคนอาจมีคำถามในใจว่า แล้วถ้าเราเป็นสาวโสดที่ไม่ได้มีอาการผิดปกติใดๆเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ประจำเดือนก็มาเป็นปกติ จำเป็นต้องตรวจภายในหรือไม่ สำหรับคำตอบนี้ตอบได้เลยว่า หากคุณเริ่มมีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป การตรวจภายในเป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างมาก แม้ว่าคุณจะยืนยันว่าคุณปลอดภัยต่อปัจจัยเสี่ยงในทุกๆด้านก็ตาม แต่ในเรื่องของอายุก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณไม่สามารถห้ามไม่ให้เปลี่ยนแปลงได้ และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้
แล้วช่วงไหนละที่เหมาะสมต่อการตรวจภายใน ต้องบอกว่าผู้หญิงทุกท่านสามารถตรวจภายในใด้ทุกช่วงเวลา ยกเว้นในช่วงที่มีประจำเดือน แต่ถ้าหากเป็นอาการผิดปกติที่เกี่ยวกับการมีเลือดออกที่ไม่ใช่ประจำเดือน ก็สามารถตรวจวิเคราะห์ได้เลยทันทีเพื่อให้ได้ผลการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด
ในด้านของการเตรียมตัวก่อนมาตรวจเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้การวินิจฉัยโรคผิดพลาดไป โดยสิ่งแรกเลยคือ การให้ข้อมูลตามความเป็นจริงแก่แพทย์ผู้ตรวจ มิเช่นนั้น ผู้ที่จะเสียผลประโยชน์ก็คงจะหนีไม่ผลตัวคุณนั่นแหละ โดยข้อมูลส่วนใหญ่ที่แพทย์ต้องการทราบก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติการมีเพศสัมพันธ์ การใช้ยาคุม การมีบุตรหรือการทำแท้ง ซึ่งยิ่งเราให้ข้อมูลได้ละเอียดมากเท่าไร ก็จะเอื้อต่อการวินิจฉัยโรคของแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ในด้านของการงดน้ำหรืออาหารเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นเลยสำหรับการตรวจภายใน สาวๆทุกคนสามารถรับประทานน้ำหรืออาหารมาได้อย่างเต็มอิ่ม ร่วมกับการเตรียมใจให้พร้อม แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
เครื่องมือหลักๆที่ใช้ในการตรวจภายในจะเป็นเครื่องมือขนาดเล็กๆที่คล้ายกับการตรวจความผิดปกติภายในโพรงจมูก หรือในบางกรณี สูตินรีแพทย์อาจจะใช้นิ้วมือสอดเข้าไปทั้งภายในช่องคลอดหรือในทวารหนัก เพื่อสัมผัสผนังของอวัยวะภายใน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในวิธีการในการตรวจสอบที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เป็นอย่างมาก
สำหรับสิ่งที่ตรวจ จะเริ่มจากการสังเกตความผิดปกติของต่อม Bartholin และต่อม Skene ซึ่งเป็นต่อมที่ช่วยในการหลั่งสิ่งหล่อลื่นภายในช่องคลอดรวมทั้งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดกลิ่นด้วย จากนั้นก็จะตรวจสอบการหย่อนของผนังช่องคลอด ตรวจการหย่อนของหูรูดกระเพาะปัสสาวะ ตรวจการเล็ดของน้ำปัสสาวะขณะเบ่งหรือไอ ตรวจการเคลื่อนตัวออกจากตำแหน่งปกติของมดลูก ตรวจการปลิ้น รอยฉีกขาด และหนองภายในรูมดลูก หรือตรวจเนื้องอกภายในรังไข่และท่อรังไข่ เป็นต้น นอกจากนี้อาจมีการเก็บตัวอย่างน้ำนมในกรณีของคุณแม่ที่มีการให้นมบุตรเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย
การตรวจภายในไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวแต่อย่างใด แต่กลับเป็นสิ่งยืนยันที่ทำให้ผู้หญิงอย่างเราเกิดความมั่นใจได้ว่าสุขภาพของตัวเองนั้นยังปกติดีอยู่หรือไม่ หรือหากตรวจพบความผิดปกติใดๆขึ้นจริง ก็จะได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ ซึ่งส่งผลให้ง่ายต่อการรักษา หายได้ไว และลดโอกาสในการสูญเสียต่างๆ ได้มากกว่าด้วย
