กินชีสให้เป็นประโยชน์

หากพูดถึงอาหารที่เป็นที่นิยมของคนทั่วโลก คงมีหนึ่งในอาหารที่ชื่อว่า ‘ชีส’ อย่างแน่นอน เพราะชีสเป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อย มีความหลากหลาย มีสารอาหารที่ครบถ้วน แถมยังมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างออกไปตามแต่ละเชื้อชาติ กระบวนการในการผลิตชีสของแต่ละประเทศมักจะมีความแตกต่างที่ถูกปรุงแต่งลงไปในอาหาร ซึ่งสามารถเพิ่มได้ทั้งรสชาติ เนื้อสัมผัส และคุณค่าทางสารอาหารให้กับเมนูของคุณได้อย่างมากมาย

แต่หลายคนก็เลือกที่จำกัดปริมาณการรับประทานชีส เพราะคิดว่าเป็นไขมันในชีสอาจจะเป็นผลเสียที่ไม่ดีต่อร่างกาย หากรับประทานชีสมากเกินไปอาจจะทำให้ร่างกายป่วยได้ง่าย แต่ว่าในวันนี้เราจะมาลองให้คุณรับรู้ถึงข้อดีของชีสกันดูบ้าง คุณจะได้รู้ว่าจริงๆแล้วชีสนั้นมีข้อดีมากกว่าข้อเสียมากน้อยขนาดไหน เรามาดูกันดีกว่าว่าการรับประทานชีสจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์อะไรได้บ้าง

1 ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

คุณอาจจะคิดว่าชีสมีไขมันเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆแล้วชีสก็เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่มีโปรตีนสูงไม่แพ้อาหารอื่นๆ ซึ่งโปรตีนในชีสก็มีหน้าที่ในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย ดังนั้น จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการที่จะเพิ่มกล้ามเนื้อในร่างกาย การรับประทานชีสเหมาะสำหรับการรับประทานในช่วงก่อนนอน เพราะกรดอะมิโนที่อยู่ในชีสจะถูกดูดซึมเข้าไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดีในระหว่างที่เรากำลังนอนหลับพักผ่อน และทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากชีสได้ดีมากขึ้นกว่าการรับประทานในช่วงเวลาอื่นๆ

2 เป็นผลดีต่อกระดูก

นอกจากชีสจะมีไขมันและโปรตีนแล้ว ชีสยังมีสารอาหารหรือแร่ธาตุอีกตัวหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของมนุษย์ นั่นก็คือ แคลเซียม นั่นเอง แคลเซียมในชีสมีแปริมาณค่อนข้างสูง โดยในชีสแต่ละประเภทก็จะมีปริมาณแคลเซียมที่แตกต่างกันออกไป โดยหากเป็นในส่วนของเชดด้าชีสจะมีแคลเซียมสูงถึง 750 มิลลิกรัมต่อชีส 100 กรัมด้วย เมื่อเทียบกับนมสดธรรมดาแล้วจะมีแคลเซียมอยู่เพียงแค่ 350 มิลลิกรัมต่อนมสด 1 แก้ว หรือที่ 244 กรัม เท่านั้น

ดังนั้น การรับประทานชีสจึงเป็นการเสริมสร้างแคลเซียมที่ดีอีกทางหนึ่ง แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินดีซึ่งส่งผลดีต่อกระดูกด้วย การรับประทานชีสจึงช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี

3 ลดอาการฟันผุ

สำหรับประโยชน์ในข้อนี้หลายคนอาจจะยังไม่เคยรับรู้มาก่อน หรือไม่เข้าใจว่าการรับประทานชีสจะช่วยทำให้ฟันผุน้อยลงได้อย่างไร ต้องบอกว่าในชีสเกิดจากกระบวนในการหมักอาหารและเกิดเป็นเชื้อแบคทีเรียตัวหนึ่งที่เป็นเพราะไบโอติกที่มีความสามารถช่วยยับยั้งอาการฟันผุได้ โดยมีการทดลองการป้องกันฟันผุกับชาวฟินแลนด์ โดยทดลองกับอาสาสมัครจำนวนหนึ่งในช่วงอายุ 18 ถึง 35 ปี โดยให้พวกเขารับประทานชีส 75 กรัมต่อวัน ซึ่งผลปรากฏพบว่าในกลุ่มผู้ทดสอบมีปริมาณเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้ฟันผุลดลง เนื่องมาจากชีสเข้าไปแก้ไขปัญหาในช่องปากของพวกเขาได้เป็นอย่างดี ทำให้พวกเขาลดความเสี่ยงต่อปัญหาฟันผุและสุขภาพอื่นในช่องปากได้

นอกจากนี้ ยังพบว่าการเคี้ยวชีสก้อนเล็กๆยังทำให้ฟันได้รับการเคลือบ และช่วยในการป้องกันฟันผุ รวมไปถึงเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับฟันไปด้วยในตัว เนื่องจากชีสก็มีแคลเซียมในปริมาณสูงตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น

4 ช่วยควบคุมน้ำหนัก

ตามทฤษฎีแล้วการที่เราจะสามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้จะต้องมีการเผาผลาญพลังงานออกไปด้วย ซึ่งชีสเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและแคลเซียมที่มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและช่วยในการเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้ดีมากขึ้นกว่ากว่าอาหารอื่นๆ จึงพบว่าคนที่มีการรับประทานชีสเป็นประจำจะมีอัตราการเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าคนที่ไม่รับประทานชีสเลย แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ออกกำลังกายก็ตาม

การย่อยอาหารในระบบร่างกายของเรานอกจากจะมีการใช้เอนไซม์ต่างๆแล้ว ยังต้องการแบคทีเรียบางตัวที่จะเข้าไปช่วยกระตุ้นการย่อยให้เป็นผลดีมากขึ้น ซึ่งในชีสนั้นอุดมไปด้วยสิ่งต่างๆเหล่านี้ซึ่งเป็นผลดีต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้ระบบการเผาผลาญพลังงานและย่อยอาหารทำงานได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก็จะส่งผลให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ไขมันในชีสยังช่วยให้อยู่ท้อง ทำให้ไม่รู้สึกหิวบ่อย และไม่ต้องไปรับประทานอาหารอื่นๆให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นด้วย

5 ลดโรคเบาหวาน

เนื่องมาจากในชีสเป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของกรดไขมันตัวหนึ่ง ที่มีความสามารถในการลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานได้ดีกว่ากรดไขมันชนิดอื่นๆ โดยสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้กว่า 60% แถมยังช่วยในการควบคุมคอเลสเตอรอล ระดับอินซูลิน และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการอักเสบต่างๆได้ด้วย

อีกหนึ่งประโยชน์ที่อยู่ไม่ไกลกัน ก็คือ การลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี ทำให้สุขภาพหัวใจมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น บางที่อาจจะแนะนำให้คุณรับประทานชีสประเภทบลูชีสกับไวน์แดง ก็จะยิ่งทำให้หัวใจนั้นมีความแข็งแรงมากขึ้นไปกว่าเดิม เพราะอาหารทั้งสองชนิดนี้นั้นมีความสามารถในการเสริมสุขภาพหัวใจเหมือนกัน และจะยิ่งดีมากขึ้นหากรับประทานไปด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม ต้องยังไม่ลืมว่าชีสนั้นยังเป็นอาหารที่มีพลังงานสูง การรับประทานเพื่อให้ได้ประโยชน์ที่ดีจึงไม่ควรที่จะรับประทานมากจนเกินไป เพราะแทนที่จะได้ประโยชน์อาจจะได้เป็นโทษแทน ทั้งนี้ การรับประทานแต่น้อยแต่เลือกรับประทานให้ถูกเวลากลับเป็นสิ่งที่ดีที่ควรทำ เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง

อีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรใช้พิจารณาควบคู่ในการเลือกรับประทานชีส ก็คือ ควรจะสังเกตดูว่าชีสที่เลือกรับประทานมีส่วนผสมของเกลือในปริมาณต่ำหรือไม่ เพราะหากเราเลือกรับประทานอาหารที่มีเกลือต่ำก็ย่อมเป็นประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายมากกว่า เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับประทานปริมาณโซเดียมมากจนเกินไปและจะกลายเป็นโทษต่อร่างกาย