สิวหายแค่เลือกอาหาร
ปัญหาผิวที่คนกังวลมีอยู่หลากหลายประการ ซึ่งหนึ่งในปัญหาเหล่านั้นก็คือปัญหาของสิวที่เกิดขึ้นบ่อยๆบนใบหน้าของเรา การมีสิวอาจจะเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในแต่ละช่วงวัย หรืออาจจะเป็นเพราะเหตุปัจจัยอื่นๆ ซึ่งหากเราสามารถควบคุมปัจจัยของการเกิดสิวได้ ก็จะช่วยลดโอกาสในการเกิดปัญหาที่เกิดสิวขึ้นบนใบหน้าของเรา
หนึ่งในปัจจัยที่จะส่งเสริมให้เกิดสิวก็คือ “อาหารการกิน” ทั้งนี้ มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาหารการกินที่เป็นสาเหตุให้เกิดสิวอยู่หลายประการ เราจะรวบรวมมาให้คุณได้ลองทำความเข้าใจว่าอะไรบ้างที่ควรและไม่ควรรับประทาน
อาหารที่เป็นตัวการทำให้เกิดสิว มีดังนี้
1 ผลิตภัณฑ์จากนม
มีผลงานวิจัยจากหลายสถาบันที่ได้ทำการทดสอบ และพบว่าอาหารที่เป็นผลิตภัณฑ์จากนมจะมีความเสี่ยงในการเพิ่มปัญหาสิว หรือทำให้เกิดเป็นสิวได้ง่ายขึ้นถึงแม้ว่าอาจจะยังไม่มีบทสรุปที่ชัดเจน แต่แพทย์ทั้งหลายก็ต่างลงความเห็นตรงกันว่า ฮอร์โมนน้ำนมจะเป็นต้นตอสำคัญที่ทำให้เกิดสิว
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมีสิวเห่อ ลองจำกัดปริมาณการดื่มนมในแต่ละวันดูก่อน แล้วสังเกตว่ามีการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสิวหรือไม่ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของนมนั้นก็มีอยู่หลากหลายประการไม่ว่าจะเป็น นมพร้อมดื่มหรืออาจจะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเวย์โปรตีนจากน้ำนม ซึ่งจำเป็นจะต้องควบคุมสิ่งต่างๆเหล่านี้หากไม่ต้องการให้มีสิวมากจนเกินไป
2 อาหารหวานหรือขนมหวาน
มีงานวิจัยอีกหลายๆงานวิจัยลงความเห็นตรงกันว่า อาหารที่ทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดสิวโดยส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะเป็นการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน ขนมเค้ก เป็นต้น อาหารเหล่านี้ล้วนแต่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คุณเป็นสิวมากขึ้นได้ทั้งนั้น
ทั้งนี้ ไม่ได้แนะนำให้งดรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงนี้ไปเลย แต่ควรที่จะเพิ่มการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงเข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นธัญพืชที่ไม่ขัดสีหรือธัญพืชชนิดอื่นๆ เพื่อชดเชยการรับประทานน้ำตาลในอาหารหวานก็จะช่วยให้ปัญหาต่างๆเหล่านี้ลดลงได้

ในส่วนของอาหารบางประเภทอาจจะทำให้คุณเข้าใจผิดแต่ว่ามันเป็นต้นเหตุของการทำให้เกิดสิว ซึ่งจริงๆแล้วมันอาจจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยตรง อาหารที่มักทำให้คนเข้าใจผิด ได้แก่
1 ช็อกโกแลต
เหตุผลที่คนคิวว่าช็อกโกแลตจะทำให้เกิดสิว เนื่องจากช็อกโกแลตถือเป็นหนึ่งในขนมหวาน คนจึงมักจะเข้าใจว่าช็อกโกแลตอาจจะเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดสิวไปด้วย
ทั้งนี้ ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆที่บ่งชี้ว่าช็อกโกแลตเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาสิวบนใบหน้าตามที่กล่าวมานี้ แต่ในทางตรงข้าม ยังพบว่าช็อกโกแลตประเภทที่เป็นดาร์กช็อกโกแลตจะมีสาร antioxidant ที่มีประโยชน์ต่อผิวของเรา มากกว่าที่จะเป็นตัวการที่ทำให้เกิดเป็นสิวด้วยซ้ำ
2 อาหารทอด
คนมาคิดว่าการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงหรืออาหารที่ผ่านการทอดด้วยน้ำมัน จะเป็นต้นเหตุของการทำให้เกิดสิว เนื่องมาจากเป็นอาหารที่มีไขมันอยู่ในปริมาณมาก
แต่จริงๆแล้วไขมันที่เราได้รับจากอาหารเหล่านี้ไม่ได้มีผลต่อการเกิดสิวโดยตรง เพียงแต่การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงหรือไขมันอิ่มตัวมาก จะไปเพิ่มความเสี่ยงของการอักเสบตามอวัยวะต่างๆ และเป็นต้นเหตุสำคัญของโรคอ้วนหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ดังนั้น ถึงแม้ว่าอาหารมันจะไม่ได้เป็นตัวการของการเกิดสิว แต่ก็ยังไม่ควรที่จะรับประทานมากไปอยู่ดี
3 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ยังไม่พบหลักฐานที่เกี่ยวข้องระหว่างการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับการเกิดสิว ถึงแม้ว่าการที่เราดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปจะทำให้เกิดการขยายของหลอดเลือดใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งจะทำให้มีใบหน้าที่แดงกว่าปกติหรือทำให้ผิวหนังแห้ง แต่ก็ไม่ได้ถือเป็นสาเหตุของการเกิดสิวโดยตรง

ส่วนใครที่มีความเชื่อว่าหากเป็นสิวแล้ว และได้มีการรับประทานอาหารดังกล่าวนี้ จะมีผลที่จะทำให้สิวหายไปได้นั้น ก็จะต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะอาหารบางอย่างก็ไม่ได้มีความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาสิวได้ ยกตัวอย่างเช่น
อาหารหรือวิตามินเสริม เพราะจริงๆแล้วสาเหตุหลักของการเกิดสิว คือ ฮอร์โมน การเสริมส่วนของวิตามินเข้าไปจึงไม่ได้เชื่อมโยงต่อการแก้ปัญหาสิว เพียงแต่จะทำให้เราได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจจะช่วยลดการอักเสบต่างๆภายในร่างกายเท่านั้น
หรือหากคุณเคยได้ยินมาว่า…การดื่มน้ำมากๆจะทำให้สิวหายได้เร็ว ก็ต้องเปลี่ยนความคิดเช่นเดียวกัน เพราะการดื่มน้ำมากๆอาจจะช่วยทำให้สุขภาพผิวของเราดีขึ้น แต่น้ำไม่ได้มีความสามารถในการชำระล้างรูขุมขน หรือช่วยลดการเป็นสิวได้อย่างที่หลายๆคนอาจเข้าใจกัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีอาหารบางอย่างที่ช่วยลดการเกิดสิวได้ หนึ่งในอาหารที่จะมีส่วนในการทำให้สิวหายไปได้ ก็คือ น้ำมันปลา เพราะน้ำมันปลาจะประกอบไปด้วยไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณสูง และโอเมก้า 3 คือตัวการสำคัญที่ทำให้สิวหายไปได้ ทั้งนี้เนื่องมาจากโอเมก้า 3 จะยับยั้งการอักเสบบนผิวหนัง ซึ่งหากต้องการให้ได้ผลดีควรที่จะรับประทานให้ได้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังต้องอาศัยวิธีการรักษาสิวด้วยวิธีการอื่นๆควบคู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยขั้นตอนที่ถูกต้อง การใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ เป็นต้น ก็จะทำให้สิวที่เป็นอยู่ค่อยๆจางหายไป
ทั้งนี้ การรักษาสิวควรเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล เพราะความแตกต่างของสภาพผิวจะเป็นผลสำคัญที่ทำให้วิธีในการรักษาแตกต่างกันออกไป และประสิทธิผลในการรักษาก็จะไม่เท่ากันด้วย