กระเป๋าถือเป็นอุปกรณ์ข้างกายของสาวๆที่แทบจะเรียกว่าขาดไม่ได้กันเลย ซึ่งภายในกระเป๋าคู่ใจนั้นก็ล้วนแต่บรรจุสัมภาระที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวันที่แตกต่างกัน บางคนก็แบกมาซะทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องสำอาง กระเป๋าสตางค์ หรืออารายอื่นๆที่สามารถยัดลงในกระเป๋าได้ แต่คุณรู้หรือไม่คะว่าการแบกของหนักๆแบบนี้ทุกวันเป็นสาเหตุอันตรายต่อการเกิดโรคร้ายใกล้ตัวคุณได้
ภาพจาก : http://www.tlcthai.com/women/
โรคแรกที่มักพบกับสาวๆจอมแบกเลยนั่นก็คือโรคกล้ามเนื้ออักเสบ โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า หรือไหล่ เนื่องมากจากอวัยวะเหล่านี้จะต้องแบกรับน้ำหนักของกระเป๋าอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดอาการปวดบริเวณต้นคอ บ่า และไหล่ได้ และหากพฤติกรรมนี้ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องก็จะส่งผลกระทบต่ออวัยวะภายในอื่นๆด้วย เช่น ปอด กระดูก เป็นต้น
การแบกกระเป๋าหนักๆเป็นเวลานานๆอาจส่งผลร้ายต่อปอดได้เนื่องจากน้ำหนักที่กดลงบนไหล่จะไปกดทับกล้ามเนื้อบริเวณทรวงอกซึ่งเป็นที่ตั้งของปอด ทำให้การหายใจเพื่อรับออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายด้อยประสิทธิภาพลง ร่างกายจึงอาจเกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพด้านอื่นๆตามมา
อีกหนึ่งโรคที่เป็นผลกระทบข้างเคียงจากการแบกของหนักก็คือโรคกระดูกและข้อเสื่อม เนื่องมาจากกระเป๋าสะพายที่น้ำหนักมากเกินไปจะทำให้ร่างกายส่วนบนต้องแบกรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น น้ำหนักส่วนนี้จะไปกดลงที่กระดูกสันหลังอีกทอดหนึ่ง ประกอบกับการเคลื่อนไหวระหว่างวันทั้งการเดินหรือการลุกนั่งก็จะยิ่งส่งผลให้กระดูกรับน้ำหนักมากยิ่งขึ้น และเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดตามตามข้อต่างๆ ทั้งข้อเท้าและข้อเข่า อีกทั้งยังอาจเป็นต้นเหตุของโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมได้อีกด้วย
เมื่อทราบกันอย่างนี้แล้ว สาวๆคนไหนที่กลัวจะเป็นโรคดังกล่าวก็ควรรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสะพายกระเป๋ากันได้เลย โดยอาจเริ่มจากการการเลือกกระเป๋าขนาดเล็กและพกพาแต่เฉพาะของที่จำเป็นเท่านั้น หากเริ่มรู้สึกเมื่อยล้าที่ไหล่ก็ให้สะพายกระเป๋าสลับข้างซ้ายและขวาบ่อยๆ หรือเปลี่ยนเป็นคล้องกระเป๋าที่แขนแทน นอกจากนี้การเลือกใช้สายคล้องกระเป๋าที่มีขนาดใหญ่และหนานุ่ม ก็สามารถช่วยกระจายน้ำหนักและช่วยให้ลดอาการปวดจากการสะพายกระเป๋าหนักๆได้เช่นกัน
