การดูแลสุขภาพ, บทความน่ารู้, บทความสุขภาพ, สุขภาพ, สุขภาพดี, สุขภาพน่ารู้, เกี่ยวกับโรค, เสริมความงาม

‘กระ’ ภาระของผิวหน้า

 

    ผิวหน้าที่ขาวใสเรียบเนียนคงเป็นสิ่งที่ผู้หญิงไทยทุกคนพึงอยากจะมี เพราะการมีฝ้า กระ หรือจุดด่างดำปรากฎอยู่บนใบหน้า จะทำให้คุณแลดูไม่สวยงามตามที่วาดหวังเอาไว้ ซึ่งสภาวะแวดล้อมในปัจจุบันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ใบหน้ามีโอกาสที่จะได้รับความเสียหายมากขึ้นกว่าในอดีต

    แม้ ‘กระ’ จะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงชาวต่างชาติบางประเทศต้องการอยากจะให้มีบนใบหน้า แต่สำหรับหญิงสาวชาวไทยแล้วนั้น สิ่งๆนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะทำให้ปรากฎขึ้นเลย ซึ่งหากเราต้องการจะหาวิธีการป้องกันกระ ก็จำเป็นจะต้องทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นเสียก่อน ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลยค่ะ

    “กระ คือ ความผิดปกติของสีผิวที่เกิดจากการมีเม็ดสีเมลานินสะสมในผิวหนังมากผิดปกติ จนทำให้เกิดเป็นรอยผื่นสีน้ำตาลคล้ำที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป ลักษณะของกระจะเป็นจุด (Macule) สีน้ำตาล ที่มักขึ้นกระจายอยู่ทั่วใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณแก้มทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโอกาสสัมผัสกับแสงแดดมากที่สุด กระที่พบบนผิวหน้านั้นไม่จำกัดเพศ โดยสามารถพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย แต่จะเกิดมากในบุคคลที่มีผิวขาวมากกว่า และมีเหตุผลทางกรรมพันธุ์เป็นพื้นฐานที่ทำให้ลักษณะปรากฎในแต่ละบุคคลแตกต่างกันตามไปด้วย

‘กระ’ ภาระของผิวหน้า
ภาพจาก : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=chadalaem&month=08-2012&date=09&group=13&gblog=31 ‘กระ’ ภาระของผิวหน้า


 

    โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งชนิดของ “กระ” ออกได้เป็น 4 ประเภท ตามลักษณะรายละเอียดที่แตกต่างกัน ได้แก่

    1. กระตื้น มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลขนาดเล็ก มีขนาดไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร ไม่มีขอบเขตชัดเจน และมักพบกระจายทั่วใบหน้า กระประเภทนี้ถ้าโดนแดดจะมีสีเข้มขึ้น แต่ถ้าไม่โดนแดดนานๆ สีของกระมักจะจางลงได้เอง


2. กระลึก หรือ กระโฮริ (Hori) มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเทาๆ เห็นเป็นเงาลึกๆ ส่วนใหญ่จะปรากฎอยู่บริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้างหรือบริเวณขมับ โดยทั่วไปกระลึกจะเริ่มแสดงให้เห็นในช่วงอายุประมาณ 20-30 ปี และพบได้บ่อยในผู้หญิงชาวเอเชีย ซึ่งอาจมีประวัติของสมาชิกในครอบครัวที่มีรอยโรคลักษณะเดียวกันมาก่อน

    3. กระเนื้อ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีน้ำตาลหรือสีดำ โดยจะมีลักษณะเป็นก้อนเล็กๆ ผิวเรียบหรือผิวขรุขระ จำนวนตั้งแต่ 1-2 ตุ่มหรืออาจมีมากเป็นร้อยตุ่มก็ได้ เมื่อปล่อยนานไปตุ่มมักนูนหนามากขึ้นและผิวจะขรุขระคล้ายดอกกะหล่ำ กระเนื้อจะสังเกตเห็นได้ชัดมากกว่ากระสองแบบแรก โดยกระประเภทนี้มักพบบริเวณนอกร่มผ้ามากกว่าในร่มผ้า ทั้งใบหน้า คอ หรือลำตัว กระเนื้อมักเริ่มปรากฏเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน แต่หากท่านใดที่มีกระเนื้อตั้งแต่อายุยังน้อยหรือมีกระเนื้อเป็นจำนวนมาก มักจะมีประวัติสมาชิกในครอบครัวที่เป็นกระเนื้อจำนวนมากเช่นกัน
    4. กระแดด มีลักษณะเป็นดวงสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม ผิวเรียบ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 1 เซนติเมตร กระประเภทนี้จะพบในคนสูงอายุหรือคนที่ต้องทำงานอยู่กลางแสงแดดเป็นเวลานาน และมักกระจายบนใบหน้าหรือผิวหนังบริเวณนอกร่มผ้า กระแดดจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นตามอายุ และสภาวะการโดดแสงแดดที่มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ใบหน้าแลดูขาวใสลดลง

‘กระ’ ภาระของผิวหน้า
ภาพจาก : http://www.westderm.com.au/skin-pigmentation/removing-freckles ‘กระ’ ภาระของผิวหน้า


    หลังจากทราบชนิดของกระกันไปแล้ว ก็มาดูวิธีในการรักษาใบหน้าให้ไร้รอยด่างดำกันเลย โดยหากคุณรู้ตัวว่าเป็นกระตื้นก็อาจจะไม่ต้องรักษาอะไรมาก เพียงแค่หลบเลี่ยงแสงแดดก็จะช่วยให้รอยกระที่เป็นอยู่จางลงได้แล้ว แต่ถ้ากระที่ปรากฎอยู่บนใบหน้าของคุณในตอนนี้เป็นกระประเภทกระลึก กระเนื้อหรือกระแดดก็อาจจะต้องรักษาโดยการทำเลเซอร์ ซึ่งจะสามารถลบเลือนความหมองคล้ำให้จางหายไปได้ ในปัจจุบันมีโปรแกรมเลเซอร์หลากหลายรูปแบบให้สาวๆได้เลือกสรรเพื่อลบรอยด่างดำบนใบหน้า อย่างไรก็ตาม การรักษากระแต่ละประเภทก็ต้องมีเทคโนโลยีที่เฉพาะเจาะจงลงไป และจะต้องมีระยะเวลาในการรักษาหรือการทำซ้ำที่แตกต่างกันตามไปด้วย ซึ่งหลังการรักษาด้วยเลเซอร์ไปแล้ว ก็ยังคงมีโอกาสการเกิดกระซ้ำอีก หากคุณขาดความระมัดระวังในการปกป้องผิวหน้าอันแสนบอบบางด้วยวิธีที่ถูกต้อง

    การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อป้องกันการเกิดกระบนใบหน้า จึงต้องมีความใส่ใจในการป้องกันภัยจากแสงแดดที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงแสงแดดให้ได้มากที่สุด การปกปิดผิวกายด้วยเครื่องนุ่งห่ม ร่ม หรือหมวก การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป การบำรุงผิวหน้าด้วยผักสมุนไพรอย่างหัวไชเท้าหรือมะเขือเทศ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งหากคุณไม่ละเลยที่จะปฏิบัติตามวิธีข้างต้นนี้แล้ว รับรองได้เลยว่าผิวหน้าของคุณจะต้องสวยใสไร้รอยกระได้อย่างแน่นอน


    ปัญหากระถือเป็นปัญหาผิวหน้าที่รักษายากมากกว่าปัญหาอื่นๆ ดังนั้นการรักษาจึงต้องอาศัยทั้งความเชี่ยวชาญของแพทย์และความอดทนของผู้รักษาไปพร้อมๆกัน จึงจะทำให้สามารถรักษาอาการที่เป็นอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ถ้าใครยังไม่อยากจะต้องมารักษาด้วยการเลเซอร์ที่มีราคาแพง ก็ควรจะปกป้องผิวให้ดีตั้งแต่แรก รวมถึงการหลีกเลี่ยงแสงแดดที่เป็นปัจจัยกระตุ้นการเกิดกระที่สำคัญ เพียงเท่านี้กระก็ไม่สามารถมาทำร้ายคุณได้อีกต่อไปแล้วละค่ะ

Sending
User Review
0 (0 votes)
error

Enjoy this blog? Please spread the word :)